Wednesday, July 28, 2010

ความเชื่อโบราณกับการตั้งครรภ์ ตอนที่ 1

ขอบคุณเว็บไซต์ดีๆ เกี่ยวกับ การตั้งครรภ์ และ พัฒนาการเด็ก bestmomclub.com ค่ะ

คนโบราณมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ บางข้อก็นำมาประยุกต์ใช้ได้ดี แต่บางข้อการแพทย์สมัยใหม่บอกว่า ไม่ถูกต้อง bestmomclub นำความเชื่อเหล่านั้นและบทวิเคราะห์จากคุณหมอ มาให้อ่าน ให้ใช้วิจารณญาณกันอย่างเต็มที่ครับ ขอแบ่งเป็นหลายตอน เพราะมีหลายความเชื่อ

ตอนที่ 1
1. ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน คุณเชื่อหรือไม่คะว่าคนสมัยก่อนเชื่อกันว่า การดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนทุกวันระหว่างตั้งครรภ์นั้น จะทำให้เด็กทารกที่คลอดมามีผิวพรรณสะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่มีไขมันติดตัวออกมาเวลาคลอด เกี่ยวกับความเชื่อมในเรื่องนี้นั้นคุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ นักโภชนาการโรงพยาบาลพระรามเก้ากล่าวชี้แจงว่า “... ในเรื่องนี้นั้นยังไม่มีงานวิจัยออกมายืนยันอย่างชัดเจนค่ะว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นอย่างไร

แต่เคยมีงานวิจัยของเมืองนอกชิ้นหนึ่งออกมาว่า ในน้ำมะพร้าวมีสารชนิดหนึ่งซึ่งช่วยให้มดลูกบีบตัว ดังนั้นหากหญิงมีครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าวเข้าไปสารตัวนี้ก็จะไปช่วยให้มดลูกบีบรัดรก ทำให้เกิดมีการคล้ายๆ ชะล้างเกิดขึ้น ...เหมือนๆ กับที่มีข้อห้ามไม่ให้คนที่กำลังมีประจำเดือนดื่มน้ำมะพร้าวนั่นแหละค่ะ เพราะเกรงว่าจะไปบีบรัดมดลูก แต่ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ออกมายืนยันว่าดื่มน้ำมะพร้าวแล้วผิวพรรณเด็กจะดีค่ะ...” อย่างไรก็ตามไม่ได้มีข้อห้ามไม่ให้คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าวที่แสนอร่อย เย็นชื่นใจ ... จริงไหมคะ

2. ห้ามนอนหงายเพราะรกจะติดหลังแล้วคลอดออกมาไม่ได้ พ.อ. ดาราพงศ์ ลังกาฟ้า สูตินรีแพทย์ได้กรุณาให้คำตอบเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องนี้ว่า “...เป็นการเข้าใจผิดของคนในสมัยก่อน ซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรกในร่างกาย รกจะไม่เกาะติดกับหลังของเรา เพราะรกอยู่ในมดลูก รกจะเกาะติดด้านหน้า หรือด้านหลังของมดลูกก็ได้ไม่มีอันตรายใดๆ ที่จะมีอันตรายคือ รกเกาะต่ำ โดยรกมาเกาะด้านล่างบริเวณปากมดลูก ซึ่งทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้ รกจะเกาะที่ไหนไม่ได้ขึ้นกับท่านอน การนอนตะแคงดีกว่านอนหงายในอายุครรภ์หลังๆ ตอนท้องโต การนอนหงายมดลูกจะไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหลังมดลูกได้ ทำให้ความดันโลหิตต่ำลง และเลือดไปหล่อเลี้ยงมดลูกน้อยลง เป็นอันตรายต่อแม่และเด็กได้ แต่ถ้านอนตะแคง มดลูกจะไม่ไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ อันตรายก็ไม่เกิดขึ้น...”

มีตอนต่อไปนะจ๊ะ

นิตยสารบันทึกคุณแม่ ปีที่ 10 กรกฎาคม 2547

ที่มา http://www.bestmomclub.com

Monday, July 19, 2010

การตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง และความรู้เกี่ยวกับ ชุดตรวจครรภ์ ตอนที่ 2

ขอบคุณเว็บไซต์ดีๆ เกี่ยวกับ การตั้งครรภ์ และ พัฒนาการเด็ก bestmomclub.com ค่ะ

ต่อตอนที่ 2 กันนะคะ

* การอ่านผล ส่วนมากในกล่องของชุดตรวจที่ซื้อมาจะบอกวิธีการอ่านไว้แล้วพร้อมมีรูบภาพตัวอย่างด้วย โดยส่วนมากการอ่านผลที่ถูกต้องต้องอ่านภายใน 5 นาที ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้ ที่เคยขึ้นขีดเดียวของบางบริษัท อาจมีอีกขีดโผล่มาได้ ซึ่งไม่ใช่การตั้งครรภ์ และเชื่อถือไม่ได้แล้ว
1. ถ้าขึ้น 2 ขีด แปลว่าให้ผลบวก
2. ถ้าขึ้นขีดเดียว แปลว่าให้ผลลบ (ต้องขึ้นที่ขีด C นะครับ)
3. ถ้าไม่ขึ้นสักขีด แปลว่า อ่านผลไม่ได้ หรือแถบเสีย
4. ถ้าขีด T ขึ้นจางๆ แปลว่า ยังไม่แน่

* การแปลผล ส่วนมากในกล่องของชุดตรวจที่ซื้อมาจะบอกวิธีการอ่านไว้แล้วพร้อมมีรูบภาพตัวอย่างด้วย โดยส่วนมากจะแปลผลดังนี้
1. ถ้าให้ผลบวกแปลว่าตั้งครรภ์
2. ถ้าให้ผลลบ แปลว่า ไม่ตั้งครรภ์ หรืออาจตั้งครรภ์แต่ยังตรวจไม่เจอก็เป็นได้
3. ถ้าไม่ขึ้นสักขีด แปลว่าชุดตรวจนั้นเสีย อาจเสียจากการผลิต หรือเสียจากการเก็บไม่ถูกวิธี หรือหมดอายุ หรือใช้ปัสสาวะเก่าทิ้งไว้นาน การตรวจในครั้งนั้นใช้ไม่ได้ ต้องเอาอันใหม่มาตรวจ
4. ถ้าขีด T ขึ้นจางๆ แนะนำรออีกสองสามวันตรวจใหม่ (คนละยี่ห้อก็ดี)
5. การตรวจนี้ถ้าให้ผลเป็นบวก บอกได้แค่ว่ามีการตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่ได้บอกว่าตั้งครรถ์ในมดลูกหรือนอกมดลูก

* ระยะเวลาในการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะการตรวจปัสสาวะปกติก็ควรรอให้ให้รอบเดือนขาดเสียก่อนจึงค่อยตรวจ ในหลายๆครั้งความเครียด วิตกกังวลก็อาจทำให้รอบเดือนมาช้าได้ (โดยเฉพาะในรายที่ยังไม่พร้อม) ดังนั้นเมื่อถึงวันนัดแล้ว รอบเดือนยังไม่มาตามนัด คุณก็สามารถรอได้ รอ 7 วันแล้วค่อยตรวจก็ยังไม่สาย ตรวจแล้วถ้าให้ผลบวก ก็แปลว่าตั้งครรภ์ แต่ถ้าให้ผลลบ ก็รออีก 7 วันค่อยตรวจซ้ำ ตรวจแล้วยังให้ผลลบ ก็รออีก 7 วันตรวจใหม่อีกที ถ้าครั้งนี้ยังให้ผลลบก็เย็นใจได้แล้ว ไม่น่าท้อง (ไม่ได้บอกว่าไม่ท้องแน่ๆ)รออีก 7 วันคราวนี้ถ้าให้ผลลบอีก และกังวลว่าจะตั้งครรภ์(แต่ไม่พร้อม) ก็คงต้องไปหาหมอตรวจแล้วครับ

* การตรวจการตั้งครรภ์จะตรวจก่อนรอบเดือนขาดได้ไหม ในกรณีที่มีการผสมเทียมหรือการทำเด็กหลอดแก้ว แพทย์อาจตรวจเลือดหลังจากทำไป 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อดูว่าการทำนั้นสำเร็จหรือไม่ ซึ่งการตรวจเลือดปกติก็ตรวจได้ตั้งแต่ 7 - 9 วันหลังไข่ตก แต่ถ้าเป็นการตรวจปัสสาวะอาจตรวจได้ 14 วันหลังไข่ตก นั่นก็คือตั้งแต่วันที่รอบเดือนควรจะมา แต่ชุดการตรวจที่รู้ไวแบบนั้นก็อาจผิดพลาดให้ผลบวกปลอมได้เช่นกันแต่ในกรณีการตั้งครรภ์ปกติทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องไปรู้ก่อนรอบเดือนขาด ถึงคุณไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ การรู้ก่อนรอบเดือนขาด หรือรู้หลังรอบเดือนขาด 1 – 2 สัปดาห์ก็ไม่มีอะไรต่างกัน

* ความน่าเชื่อถือ ตรวจปัสสาวะแล้วให้ผลบวกแปลว่าท้องแน่นอนใช่ไหม ..... ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น… แต่เท่าที่เคยเจอก็ไม่แน่เสมอไป ตรวจคราวก่อนให้ผลบวก สองวันต่อมารอบเดือนกลับมาหน้าตาเฉยก็มี แล้วทำไมจึงเป็นอย่างนั้น..... ในบางครั้ง บางบริษัทไวมากฮอร์โมนอื่นที่ไม่ใช่ hCG ก็ให้ผลบวกปลอมก็มีเช่นฮอร์โมน LH แต่ก็พบไม่บ่อยนักผิดพลาดได้ 1- 2 %

* อาหารและยาที่กินเข้าไปมีผลให้การตรวจการตั้งครรภ์ผิดพลาดไหม โดยปกติอาหารก็ไม่มีผลอะไร แต่ก็มียาบางอย่าง (เช่นยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้บางตัว เช่นยา promethazine) อาจทำให้ผลตรวจผิดพลาด จากที่ควรบวก แต่ทำให้ผลเป็นลบได้ ยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน hCG หรือมีส่วนประกอบของฮอร์โมน hCG อาจทำให้มีผลบวกปลอมได้

* ขีดที่สองขึ้นจางๆ แปลว่าอะไร บางครั้งตรวจไปแล้วขีดที่ 2 ทำท่าขึ้นมาแต่ก็จางๆ จะอ่านว่าบวกหรือเปล่า ….ผลที่ได้ถือว่ายังไม่แน่นอนนะครับ ให้รออีก 7 วันค่อยตรวจใหม่ซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

* ซื้อได้ที่ไหน หาซื้อได้ร้านขายยาทั่วไป หรือร้านขายยาในห้าง

* ราคาเท่าไหร่ ชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่มีจำหน่ายมีหลากหลายยี่ห้อ ราคาตั้งแต่ 50 บาทไปถึงร้อยกว่าๆ

* กรณีท้องนอกมดลูกบอกได้หรือเปล่า ลำพังแค่ตรวจปัสสาวะบอกไม่ได้ครับว่าท้องในมดลูกหรือนอกมดลูก การวินิจฉัยว่าท้องนอกมดลูก ต้องอาศัยการตรวจร่างกาย การตรวจอย่างอื่นร่วมด้วย รวมทั้งประวัติอาการต่างๆ แต่ท้องนอกมดลูกก็เจอน้อย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ปล่อยเป็นหน้าที่หมอที่จะวินิจฉัยเอง

* คลอดเด็กไปแล้วยังตรวจเจอไหม หลังจากคลอดไม่ว่าคลอดปกติหรือผ่าคลอด หลังจากแท้งไปแล้วไม่ว่าแท้งเองหรือไปทำแท้งมา ฮอร์โมนในเลือดไม่หมดไปทันที แต่จะค่อยๆลดลง 1 – 2 สัปดาห์ยังอาจตรวจปัสสาวะให้ผลบวกได้ แต่อย่างไรก็ตามหลัง 4 สัปดาห์แล้วก็จะให้ผลลบทุกราย

* ตกขาวกับการตั้งครรภ์ คนท้องอาจมีตกขาวได้ คนทั่วไปก็มีตกขาวได้ ตกขาวทั้งสองอย่างไม่สามารถแยกกันได้ ไม่ควรใช้เรื่องตกขาวมาเป็นตัวสงสัยว่าท้องหรือเปล่า ถ้าสงสัยว่าจะท้องหรือเปล่า ลองตรวจปัสสาวะด้วยตนเองก่อนดีที่สุดยังไงก็ดีถ้าตรวจหรือตรวจซ้ำแล้วผลออกมาว่าตั้งครรภ์ก็ให้ไปตรวจครรภ์โดยแพทย์หรือที่โรงพยาบาลอีกครั้งจะดีที่สุดนะครับที่มาข้อมูล [url=http://www.mitthai.com/forum/viewtopic.php?f=14&t=165]MITTHAI[/url]

ที่มา http://www.bestmomclub.com

Thursday, July 15, 2010

การตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง และความรู้เกี่ยวกับชุดตรวจครรภ์ ตอนที่ 1

ขอบคุณเว็บไซต์ดีๆ เกี่ยวกับ การตั้งครรภ์ และ พัฒนาการเด็ก bestmomclub.com ค่ะ

ในขณะที่มนุษย์ตั้งครรภ์ ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายอย่างเพื่อเตรียมตัว สำหรับอีกชีวิตหนึ่งที่จะเกิดมา ก็เหมือนเราเตรียมบ้านสำหรับคนมาใหม่ ต้องเก็บต้องจัดของให้เข้าที่เรียบร้อย
การจะรู้ว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า ถ้าจะอาศัยอาการทางร่างกายคงเป็นเรื่องยาก และไม่แน่นอน ยิ่งในช่วงเริ่มต้น อย่างเรื่อง คลื่นไส้อาเจียนก็ไม่ได้เป็นอาการเฉพาะเจาะจงของคนท้องเสมอไป โรคอื่น สาเหตุอื่นก็ทำให้มีอาการอย่างนี้ได้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยการตรวจ จึงจะบอกได้แน่ชัด ถ้าไปหาหมอ หมอก็อาจตรวจปัสสาวะพร้อมกับตรวจร่างกาย ถ้ายังไม่แน่ใจหมออาจตรวจเลือดหรือตรวจ Ultrasound เพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า

* มีคนมากมายถามว่าแล้วถ้าไม่ไปหาหมอจะตรวจการตั้งครรภ์เองได้ไหม ?
ตอบว่าได้เพราะทุกวันนี้มีชุดตรวจสำเร็จรูปสำหรับตรวจปัสสาวะด้วยตนเอง วางจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ร้านขายยาก็มีขาย ห้างสรรพสินค้าก็มีขาย สินค้าเหล่านี้มักวางขายใกล้ๆชั้นขายยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย ซื้อมาแล้วก็เอามาตรวจเองที่บ้าน

* ชุดตรวจปัสสาวะเพื่อใช้ตรวจการตั้งครรภ์
ซื้อมาแล้วจะเก็บไว้ก่อนก็ได้ที่อุณหภูมิ 4 – 30 องศา (อุณหภูมิห้องก็ใช้ได้) และเมื่อฉีกซองออกมาแล้ว ต้องตรวจทันทีจึงจะได้ผลดี แต่ถ้าฉีกมาแล้วยังไม่ตรวจสามารถเก็บไว้ได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นจะโดนความชื้น ทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้ ซึ่งอาจให้ผลตรวจผิดพลาดได้

* ปัสสาวะที่ใชตรวจการตั้งครรภ์
จะใช้ปัสสาวะตื่นนอนตอนเช้าก็ได้ ฮอร์โมนแยะดี แต่จะใช้ปัสสาวะเวลาอื่นก็ได้ผลเหมือนกัน สำคัญต้องเป็นปัสสาวะสดคือปัสสาวะมาใหม่ๆ

* วิธีการตรวจ ตรวจอย่างไร
ปกติในชุดจะมีอุปกรณ์ให้มาพร้อมเสร็จสรรพ ทั้งนี้ก็แล้วแต่บริษัท บางบริษัทก็เป็นแบบตลับ (Test pack) หรือแบบแถบจุ่ม (test strip) หรือแบบแผ่นหยด
แบบตลับ (Test pack) ทางบริษัทจะเตรียมถ้วย และหลอดดูดปัสสาวะมาให้พร้อม อย่าหยดปัสสาวะมาก ปกติ 3-4 หยดก็พอ
แบบแถบจุ่ม (Test strip) อาจมีภาชนะบรรจุปัสสาวะมาให้หรือไม่มีก็ได้ อย่าจุ่มเลยขีดที่กำหนด
แบบแผ่นหยด ปกติจะต้องมีหลอดดูดพร้อมก้าน ละเลงปัสสาวะผสมน้ำยามาให้ด้วย อ่านคู่มือที่มีมาให้พร้อม

มาว่ากันต่อเรื่องการอ่านผลในตอนต่อไปนะคะ
ที่มาMITTHAI.com

ที่มา http://www.bestmomclub.com

Tuesday, July 6, 2010

การเขียน resume ที่ดี

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ศูนย์ รับแปล kingtranslations

เทคนิคการเขียน Resume

1. การเขียน resume ควรเขียนให้ชัดเจนในทุกๆหัวข้อ ไม่คลุมเครือ ไม่สร้างคำถามให้แก่ผู้อ่าน
2. การใช้ ตัวอย่าง Resume จากที่อื่นๆเพียงอย่างเดียว ไม่ดีเสมอไป ควรพิจารณา ปรับใช้ให้เหมาะกับตำแหน่งงาน และคุณสมบัติของเราด้วย
3. เบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ใน resume ควรใช้เป็นเบอร์ที่ติดต่อได้ง่ายและสะดวก
4. การเขียน resume ที่ดี ต้องไม่สั้นและไม่ยาวเกินไป ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานดีเลิศขนาดไหน ก็ไม่ควรให้ยาวเกินสองหน้า
5. แบบฟอร์ม Resume ต้องชัดเจน ไม่วกวน ขนาดไฟล์ของรูปถ่ายไม่ควรใหญ่เกินไปจนกินเวลาโหลดนาน
6. ผู้อ้างอิงใน resume ตำแหน่งยิ่งใหญ่ ยิ่งน่าเชื่อถือยิ่งดี
7. หลังเขียน resume แล้ว ลองทบทวนดู โดย สมมติให้คุณเป็นฝ่ายบุคคลที่อ่าน resume นี้ จะรู้สึกอย่างไร ในทุกๆแง่มุม


Credit: ตัวอย่าง Resume จาก kingtranslations